ความเป็นมาตะกร้อ
กีฬาตะกร้อ หรือ ตะกร้อ ยังไม่มีหลักฐานกำหนดที่ชัดเจนว่ามีต้นกำเนิดจากประเทศใด เนื่องจากประเทศในภูมิภาคเอเซียอาคเนย์อย่าง ไทย มาเลเซีย เมียนมาร์ ประเทศฟิลิปปินส์ ต่างคนต่างกล่าวว่าตัวเองฯลฯเกิดขึ้นมาทั้งหมด แม้กระนั้นสำหรับของไทย มีจุดเริ่มแรกตั้งแต่ยุคกรุงศรีอยุธยา นิยมเล่นกันบนลานกว้าง ไม่จำกัดปริมาณผู้เล่น และก็ลูกตะกร้อทำจากหวาย หรือบางครั้งบางคราวก็มีเตะตะกร้อลอดห่วง
สำหรับตะกร้อแบบผ่านตาข่ายในตอนนี้ ที่มีการเล่นฝั่งละ 3 คน เอามาจากประเทศมาเลเซียหมายถึงเซปัก รากา จาริง หรือ ตะกร้อ ซึ่งดัดแปลงแก้ไขมาจากวอลเลย์บอล รวมทั้งย่อสนามให้เล็กลง โดยที่เริ่มเผยแพร่ในประเทศไทยโดยประมาณมีนาคม – ม.ย. พุทธศักราช 2508 ในงานกีฬาไทย
สนามตะกร้อ
สนามตะกร้อ เป็นรูปร่างสี่เหลี่ยมผืนผ้า ยาว 13.4 เมตร กว้าง 6.1 เมตร เป็นหลักพลาสติก โดยจะแบ่งอาณาเขตออกเป็น 2 ส่วน เท่าๆกัน รวมทั้งในแต่ละชายแดนจะกำหนดจุดยืนสำหรับในการเริ่มเสิร์ฟ 3 ข้อด้อยกันหมายถึงจุดที่อยู่ตรงมุมที่ชิดกับตาข่าย 2 จุด ลากเส้นโค้งวงกลมเอาไว้ รวมทั้งจุดที่อยู่กึ่งกลางดินแดน เยื้องไปทางข้างหลัง 1 จุด ตีเส้นวงกลม โดยทั้งยัง 3 จุดนี้จะจัดเป็นสามเหลี่ยมสมมาตรพอดิบพอดี
สำหรับมุมที่ใกล้กับตาข่าย 2 จุด เรียกว่า หน้าซ้าย หน้าขวา และก็วงกลมที่อยู่กึ่งกลางพรมแดนหมายถึงจุดเสิร์ฟ
ขั้นตอนการเล่น
จะมีฝ้ายข้างใดข้างหนึ่งเริ่มเสิร์ฟ เตะผ่านไปอีกฝั่งหนึ่ง โดยที่ข้างที่ได้ลูกตะกร้อจำต้องพากเพียรเตะตะกร้อให้ตกลงพื้นของอีกฝั่งให้ได้ ในช่วงเวลาที่ฝ่ายตั้งรับก็จะต้องคุ้มครองปกป้อง ไม่ให้ลูกตะกร้อตกลงบนดินแดนตนเอง และก็เปลี่ยนสภาพเป็นฝ่ายบุกเพื่อทำให้ลูกตะกร้อตกลงบนดินแดนของอีกฝั่งให้ได้เหมือนกัน ดังนี้ แต่ละข้างจะได้โอกาสเตะลูกตะกร้อให้อยู่ในดินแดนตนเองไม่เกิน 3 ครั้ง ตั้งแต่แมื่อฝั่งตรงข้ามเตะตะกร้อผ่านมา
ส่วนการเสิร์ฟ เปลี่ยนกันเสิร์ฟ กลุ่มละ 3 ครั้ง สลับกันไปเรื่อย