กระเนื้อ เป็นอันตรายหรือไม่ ? และรักษาอย่างไร

ติ่งเนื้อสีเข้มที่ขึ้นตามผิวหนังเป็นเม็ดๆ เล็กๆ มาจากอะไร และอันตรายหรือไม่ หากอยากเอาออกจะมีวิธีการอย่างไร

กระเนื้อ คืออะไร ?

มีการเปิดเผยข้อมูลออกมาจาก ภาควิชาตจวิทยา หรือ dermatology คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ได้ระบุว่า กระเนื้อ นั้นเชื่อว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงของผิวหนังตามอายุของคน นอกจากนี้อาจจะพบได้มากขึ้นขณะตั้งครรภ์ ตามหลังการให้ยาฮอร์โมนบางชนิด จึงเชื่อว่าการเปลี่ยนแปลงระดับฮอร์โมนน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเกิดกระเนื้อด้วย

กระเนื้อพบบ่อยที่บริเวณ ใบหน้า คอ หน้าอก หลัง และหนังศีรษะ แต่จริง ๆ แล้วกระเนื้อ สามารถเกิดได้ทุกตำแหน่งของร่างกาย โดยในระยะแรกนั้น จะเป็นตุ่มสีน้ำตาลอ่อนก่อน และจะขยายใหญ่นูนหนาขึ้น สีเข้มและผิวขรุขระมากขึ้นตามกาลเวลา

สาเหตุของการเกิดกระเนื้อ

โดย รศ. นพ.เจตน์ วิทิตสุวรรณกุล หน่วยผิวหนัง ภาควิชาอายุรศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ได้ระบุถึงสาเหตุของการเกิดกระเนื้อไว้ ดังนี้

1. เป็นการเปลี่ยนแปลงของผิวหนังที่พบได้เมื่ออายุมากขึ้น
2. ปัจจัยร่วมอื่น ๆ อย่างเช่น ฮอร์โมน มักพบระหว่างการตั้งครรภ์ หรือการโดนแสงแดดเป็นเวลานานๆ
3. เกิดได้ทุกตำแหน่งทั่วร่างกาย แต่พบมากบริเวณ ใบหน้า ลำคอ หน้าอก และหลัง
4. อาจเป็นตุ่มแบนหรือติ่งเนื้อที่นูนออกมา
5. ผิวขรุขระเล็กน้อย มีสีน้ำตาลอ่อนไปจนถึงดำ

กระเนื้ออันตรายหรือไม่

โดยทั่วไปแล้ว แทบทุกคนจะมีกระเนื้อเกิดเมื่ออายุมากขึ้น ถ้ากระเนื้อไม่ได้เกิดขึ้นจำนวนมากอย่างรวดเร็ว และจะไม่เกี่ยวข้องกับความผิดปกติอื่นๆ ในร่างกาย แต่เนื่องจากกระเนื้อมักจะมีขนาดโตขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป และถ้ามันอยู่ในบริเวณที่กระทบง่าย หรือเราเกิดไปแกะ ไปเกามันทำให้มีเลือดออกก็ขอแนะนำให้รักษา ส่วนกระเนื้อที่มีสีดำมาก บางครั้งก็แยกได้ยากจาก มะเร็งผิวหนังบางชนิด ในกรณีเช่นนี้ควรไปปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อการวินิจฉัยและรักษาที่ถูกต้องจะดีที่สุด

การรักษากระเนื้อ

การรักษากระเนื้อ มีอยู่หลายวิธี เช่น 

1. การจี้ไฟฟ้า ก่อนจี้จะต้องใช้ยาชาเฉพาะ ที่ฉีดทาบริเวณรอยของกระ แล้วค่อยจี้บริเวณรอยด้วยเครื่องจี้ไฟฟ้า หลังจากนั้นจะขูดเนื้อเยื่อในบริเวณที่จี้ออก วิธีนี้จะเกิดแผลตื้น ๆ บริเวณที่ขูดและจะหายได้เองภายใน 1 สัปดาห์
2. การจี้ด้วยสารเคมี วิธีนี้จะไม่ใช้ยาชา โดยจะจี้ด้วย กรดไตรคลออะซิติค อาจจะมีอาการแสบบ้างบริเวณตำแหน่งที่จี้เล็กน้อย การจี้จะทำให้เนื้อเยื่อบริเวณนั้นตาย และหลุดออก ข้อเสียของการจี้ด้วยสารเคมี คือ ถ้ากระเนื้อหนา มากอาจจะหลุดออกมาไม่หมด ทำให้ต้องจี้หลายครั้ง
3. การจี้ด้วยไนโตรเจนเหลว วิธีนี้จะทำให้เกิดตุ่มน้ำพองขึ้นใต้รอยโรค ซึ่งในเวลาต่อมาจะแห้งเป็นสะเก็ดแล้วหลุดไปเองใน 2-3 สัปดาห์ ข้อเสียคือบางครั้งอาจเกิดจะรอยดำ รอยขาว หรือแผลเป็นบริเวณรอยจี้ และสำหรับรอยดำหรือขาวที่เกิดจะจางไปเองตามเวลา

ที่มา : www.sanook.com

ช่องทางเข้าสู่ SUPERSLOTMAX เว็บไซต์ผู้ให้บริการเกมสล็อตออนไลน์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในเอเชียมีผู้ใช้งานมากกว่า 50 ล้านคนทั่วโลก ได้รับการยืนยันด้วยรางวัลเกมสล็อตออนไลน์ที่มีคุณภาพที่สุดประจำปี 2020-2021 จัดโปรโมชั่น ส่งท้ายปี ambbet เครดิตฟรี การันตี BIG WIN เกือบทุกสปิน